ข้อเข่าเสื่อม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Knee Osteoarthritis เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและดูดซับแรงกระแทกในข้อเข่า โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้มากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่าด้วย สาเหตุหลักๆ ของโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่ อายุ น้ำหนักตัว และการบาดเจ็บจากกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง
สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม
อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ข้อเข่าจะผ่านการใช้งานที่ยาวนาน จึงมีโอกาสเกิดความเสื่อมได้ตามเวลา.
น้ำหนักตัว: น้ำหนักตัวที่มากทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสื่อม.
การบาดเจ็บ: การเล่นกีฬาที่มีการกระแทกสูงหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้.
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม
ปวดเข่า: อาการปวดที่ข้อเข่า โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหวหรือใช้งานมาก.
บวม: ข้อเข่าอาจบวมเนื่องจากการอักเสบ.
แข็งตัว: ข้อเข่าอาจแข็งตัวหลังการนั่งหรือนอนนาน โดยมีความแข็งตัวที่ชัดเจนในช่วงเช้า แต่จะดีขึ้นหลังการเคลื่อนไหวไม่เกิน 30 นาที.
เสียงกรอบ: การเคลื่อนไหวข้อเข่าอาจทำให้เกิดเสียงกรอบหรือเสียงดัง.
เคลื่อนไหวลำบาก: อาการปวดและการแข็งตัวทำให้เคลื่อนไหวข้อเข่าได้ไม่เต็มที่.
วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
การออกกำลังกาย: การบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าช่วยให้ข้อเข่าแข็งแรงและรองรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น.
การลดน้ำหนัก: การควบคุมน้ำหนักตัวช่วยลดแรงกดที่ข้อเข่า.
การใช้อุปกรณ์เสริม: การใช้ไม้เท้า สนับเข่า หรือรองเท้าที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดได้.
การรักษาโดยยา
ยาลดปวด: ยาแก้ปวดเช่นพาราเซตามอลและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์สามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้.
ยาช่วยซ่อมผิวข้อ: ยาเช่นกลูโคซามีนซัลเฟตช่วยชะลอการเสื่อมและซ่อมแซมผิวข้อ.
การฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อ: ช่วยลดอาการปวดและปรับปรุงการเคลื่อนไหวของข้อ.
การผ่าตัด
การผ่าตัดจัดแนวกระดูก: ใช้ในกรณีที่มีการผิดรูปของข้อเข่า.
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีการสึกของผิวข้ออย่างรุนแรง.
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมต้องอาศัยการประเมินอาการและระยะของโรคอย่างเหมาะสม โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย. การป้องกันและดูแลสุขภาพสามารถช่วยชะลอการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้.
การป้องกันข้อเข่าเสื่อมสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีการป้องกันข้อเข่าเสื่อม:
วิธีการป้องกันข้อเข่าเสื่อม
ควบคุมน้ำหนักตัว: การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมช่วยลดแรงกดที่ข้อเข่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการเสื่อมของข้อ.
หลีกเลี่ยงการนั่งท่าไม่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการนั่งราบบนพื้น นั่งขัดสมาธิ นั่งคุกเข่า หรือนั่งยองๆ เพราะท่าเหล่านี้ทำให้ข้อเข่าเกิดการกดทับมากเกินไป.
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง: หลีกเลี่ยงการกระโดด การวิ่ง หรือการยกของหนัก ซึ่งสามารถทำลายผิวข้อได้.
ออกกำลังกายที่เหมาะสม: เลือกการออกกำลังกายที่ไม่กระแทกมาก เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือการเดิน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า.
บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า: การเสริมสร้างกล้ามเนื้อช่วยพยุงและรองรับแรงกระแทกที่ข้อเข่าได้ดีขึ้น.
เลือกรองเท้าที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง และเลือกรองเท้าที่ช่วยลดแรงกระแทก.
รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงข้อ: อาหารที่มีโอเมก้า-3 สูง ผักผลไม้ที่มีวิตามินซี และอาหารที่มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ.
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: ตรวจสอบสุขภาพข้อเข่าและรับคำแนะนำจากแพทย์หากมีอาการผิดปกติ
คำถามที่พบบ่อย
เมื่อมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด เช่น ปวดเข่ามาก ผ่านการรักษาโดยการใช้ยาและวิธีอื่นๆมาแล้ว อาการไม่ดีขึ้น ข้อเข่าผิดรูป
นอนโรงพยาบาล 4-7 วัน เปิดแผล 2 สัปดาห์ ใช้walkerประคองเดิน 1-2เดือน